ผนัง Precast และ คอนกรีตมวลเบา

คอนกรีตมวลเบา
อิฐมวลเบา หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “คอนกรีตมวลเบา” ขนาดความกว้าง 4 นิ้ว ยาว 9 นิ้ว หนา 7 เซนติเมตร โครงสร้างบล็อกมีลักษณะกลวง ก่อเป็นผนังรับแรงได้ การดูดซึมน้ำปานกลาง ความหนาของปูนก่อระหว่างก้อน 2.3 มิลลิเมตร ความหนาของปูนที่ฉาบ 10 มิลลิเมตร น้ำหนักวัสดุ 45 กิโลกรัมต่อตารางเมตร น้ำหนักผนังรวมฉาบปูน 2 ด้าน 90 กิโลกรัมต่อตารางเมตร การใช้งานต่อ 1 ตารางเมตรต้องใช้จำนวน 8.33 ก้อน ค่ากำลังอัด ( Compressive Strength ) 30-80 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ค่าการนำความร้อน ( Thermal Conductivity ) 0.13 วัตต์ต่อ ม.เคลวิน อัตราการทนไฟ ( Fire Rating ) กรณีความหนา 10 เซนติเมตร อยู่ระดับ 4 อัตราการกันเสียง ( STC Rating ) 38 เดซิเบล ระยะเวลาในการก่อสร้าง 15-25 ตารางเมตรต่อวัน การติดตั้งวงกบประตู-หน้าต่าง ไม่ต้องเททับหลังและไม่ต้องมีค้ำยัน
ความเหมาะสม
อิฐมวลเบา เหมาะกับการก่อสร้างในส่วนผนังหลักของบ้าน กับผนังคอนกรีตมวลเบาทั่วไปภายในอาคาร บ้าน หรือห้องที่ต้องการความเย็นสบาย และเก็บเสียงได้ดี ซึ่งสิ่งสำคัญในการนำ อิฐมวลเบา มาใช้ก็คือ ช่างที่ทำการก่อสร้างต้อง มีประสบการณ์และมีฝีมือที่ละเอียดในระดับหนึ่ง เ พื่อให้ได้ผนังอิฐมวลเบาที่มีคุณภาพ
ผนังสำเร็จรูป Precast
บ้านระบบผนังสำเร็จรูป Precast ในปัจจุบันมีโครงการหมู่บ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมากมาย ระบบการก่อสร้างแบบ Precast จึงถูกนำมาใช้เพื่อตอบสนองการขยายตัว ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าของบ้านจึงควรรู้จักระบบ Precast เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ในการเลือกที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ให้ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง ระบบการก่อสร้างอาคารในปัจจุบันมีการพัฒนาไปอย่างมาก ระบบ Precast หรือ ระบบชิ้นส่วนอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อสำเร็จ ก็เป็นระบบหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในงานก่อสร้าง ระบบ Precast มักใช้กับงานอาคารที่เป็นโครงการ เช่น บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ที่มีรูปแบบอาคารเหมือนกันในจำนวนมาก ทางผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จึงลงทุนสร้างโรงงาน เพื่อหล่อชิ้นส่วนของอาคารล่วงหน้า เมื่อถึงช่วงการก่อสร้างจึงทำการขนส่งเพื่อติดตั้งที่หน้างาน
ความเหมาะสม
อิฐมวลเบา เหมาะกับการก่อสร้างในส่วนผนังหลักของบ้าน กับผนังคอนกรีตมวลเบาทั่วไปภายในอาคาร บ้าน หรือห้องที่ต้องการความเย็นสบาย และเก็บเสียงได้ดี ซึ่งสิ่งสำคัญในการนำ อิฐมวลเบา มาใช้ก็คือ ช่างที่ทำการก่อสร้างต้อง มีประสบการณ์และมีฝีมือที่ละเอียดในระดับหนึ่ง เพื่อให้ได้ผนังอิฐมวลเบาที่มีคุณภาพ
ข้อดี – ข้อเสีย
ผนังสำเร็จรูป Precast
ข้อดี
- ลดปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงาน ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการก่อสร้างระบบชิ้นส่วนสำเร็จรูปเป็นการนำชิ้นชิ้นส่วนที่ผลิตจากโรงงานและนำมาติดตั้งบริเวณสถานที่ก่อสร้าง และการก่อสร้างด้วยระบบชิ้นส่วนสำเร็จรูปสามารถลดงานก่อและฉาบได้ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการขาดแรงงานในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี
- ลดระยะเวลาในการก่อสร้างได้เมื่อเทียบกับระบบการก่อสร้างปกติ สามารถก่อสร้างได้อย่างสะดวกเรียบร้อยมากขึ้น เนื่องจากต้องมีการเตรียมการวางแผนตั้งแต่การออกแบบโครงสร้าง และมีการความคุมการผลิตชิ้นส่วนการก่อสร้างจากโรงงานผลิตชิ้นส่วน
- ลดมลภาวะเรื่องฝุ่น และเสียงในขณะการก่อสร้าง ในบริเวณสถานที่ก่อสร้างได้เป็นอย่างดี
- ลดต้นทุนในการก่อสร้าง เมื่อมีการก่อสร้างรูปแบบอาคารที่ซ้ำกันเป็นจำนวนมาก และจากการออกแบบที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนสามารถลดการใช้วัสดุอย่างชิ้นเปลือง
- โครงสร้างของอาคารระบบชิ้นส่วนสำเร็จรูปมีความแข็งแรงมากกว่าเมื่อเทียบกับระบบก่อสร้างปกติ เนื่องจากมีองค์ประกอบของโครงสร้างอาคารสามารถรับแรงได้
ข้อเสีย
- ต้องมีการเตรียมงานที่รอบคอบ และครอบคลุมทุกขึ้นตอนของการก่อสร้างซึ่งจะทำให้ปริมาณงาน ในส่วนของการเตรียมงานและจัดทำ Shop Drawing มากขึ้น เมื่อเทียบกับการก่อสร้างระบบปกติ เนื่องจากต้องคำนึงถึง การผลิต การขนส่ง และการติดตั้ง เป็นอย่างมาก
- การออกแบบในด้านความสวยงามของโครงสร้างอาคารจะทำได้ยากขึ้น เนื่องจากผลิตระบบชิ้นส่วน สำเร็จรูปจำเป็นต้องมีการออกแบบชิ้นส่วนที่มีรูปแบบที่ง่ายต่อการผลิต กาขนส่ง และการติดตั้ง จึงทำให้เป็นข้อจำกัดในการออกแบบของการก่อสร้างระบบชิ้นส่วนสำเร็จรูป
- ข้อจำกัดของขนาดชิ้นส่วนสำเร็จรูป จะขึ้นอยู่กับการขนส่งและอุปกรณ์การยกติดตั้ง เช่น ขนาดของรถขนส่ง การรับน้ำหนักของถนน และขนาดของรถเครน หากมีการออกแบบชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่มีขนาดใหญ่จะต้อง รถขนส่งที่ออกแบบเฉพาะ และมีอุปกรณ์ยกติดตั้งที่มีขนาดพิเศษ และจะทำให้การติดตั้งยากลำบากมายิ่งขึ้น
- การออกแบบชิ้นส่วนสำเร็จต้องคำนึงถึงรูปแบบของชิ้นส่วนที่มีจำนวนมากและขนาดเดียวกัน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการผลิตสูงสุด และลดต้นทุนวัสดุในการทำแบบหล่อ
- ความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างระบบชิ้นส่วนสำเร็จรูปจะขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของจุดต่อที่เชื่อมชิ้นส่วน สำเร็จรูปแต่ละส่วนเข้าด้วยกัน ซึ่งมีความซับซ้อนในการผลิตและการติดตั้งที่ทำได้ยาก
- การก่อสร้างด้วยระบบชิ้นส่วนสำเร็จรูป โดยทั่วไปแล้วแผ่นพื้นและผนังจะมีรอยต่อซึ่งเสี่ยงต่อการรั่วซึมเมื่อสัมผัสน้ำ
- มีการลงทุนในระยะแรก เนื่องจากการสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูป
ข้อดี – ข้อเสีย
คอนกรีตมวลเบา
ข้อดี
- แกร่ง ทนยิ่งกว่า ทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ
- ทนไฟ ทนทานต่อความร้อนสูงได้เต็มประสิทธิภาพและทนไฟได้นาน 2-4 ชม.
- ขนาดได้มาตรฐาน ด้วยขนาดและมิติที่เที่ยงตรง ทุกชิ้นงานของคุณ จึงเรียบสวยยิ่งกว่า พร้อมขนาดให้เลือกใช้ที่หลากหลาย ช่วยให้ประหยัดวัสดุ และแรงงานในการก่อฉาบ
- ประหยัดพลังงาน กันความร้อนได้ดีกว่าอิฐมอญ 4-8 เท่า สามารถลดการถ่ายเทความร้อนจากภายนอก ช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟฟ้า
- น้ำหนักเบา ก่อสร้างได้รวดเร็ว เบากว่าอิฐมอญ 2-3 เท่า และมากกว่าคอนกรีต 4-5 เท่า ทำให้สะดวกในการติดตั้ง และขนย้าย
- ใช้งานง่าย ด้วยเทคโนโลยีพิเศษในการขึ้นรูป จึงสามารถตัดแต่งได้ตามขนาด และรูปแบบที่คุณต้องการ
- กันเสียงและดูดซับได้ดี สามารถกันเสียงได้ดีกว่าอิฐมาญ ช่วยลดทอนความดังของเสียงจากภายนอกอาคารและระหว่างห้องได้เป็นอย่างดี
ข้อเสีย
- ช่างคุมงานต้องมีความรู้เกี่ยวกับมวลเบาพอสมควร
- อุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมเป็นอุปกรณ์ที่ต้องซื้อต่างหาก ไม่ใช่อุปกรณ์พื้นฐานที่ช่างจะมี ถ้าเป็นผู้รับเหมารายเล็กๆอาจไม่มี
- ปัญหาทางด้าน เจาะแขวน ของตกแต่ง ผนัง อาจจะทำให้ไม่แข็งแรง และ เปราะโดยง่าย